บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โชว์งบไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดดเด่นที่ธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตขึ้นกว่า 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรสและธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้ภาพรวมของปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 3,945 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 532 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 16% จากปี 2565 และบริษัทมีกำไรสุทธิรวมทั้งกลุ่มบริษัท 177 ล้านบาท
คุณยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ทางด้านเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2566 โดยรวมอุปสงค์ในประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่อุปสงค์ต่างประเทศชะลอตัวจากการส่งออกภาคบริการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวสัญชาติอื่น ทำให้รายรับการท่องเที่ยวปรับลดลง
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท ในไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจร้านอาหารในช่องทางรับประทานอาหารที่ร้านเติบโตขึ้น 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการปรับรูปแบบธุรกิจ การพัฒนาแบรนด์ และการออกโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มาใช้บริการให้มากที่สุด และจากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรสและธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้ธุรกิจอาหารค้าปลีกเติบโตขึ้น 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน”
ในส่วนของการทำการตลาดในช่วงปลายปีก็สร้างความคึกคักให้กับตลาดช่วงปลายปีไม่น้อยเลยทีเดียว ฝั่งร้านอาหารแบรนด์ญี่ปุ่น เริ่มที่ เซ็น เรสเตอร์รอง ชูกลยุทธ์การตลาดส่งท้ายปี มูเก็ตติ้ง (Muketing) ต้อนรับปีมังกรทอง เสริมพลังด้วยการทานอาหารที่ดีมีคุณภาพ มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ใหม่และเข้าถึงผู้บริโภคแบบ Emotional กับกลุ่มเป้าหมาย Gen Y - Gen Z, ต่อมาที่ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี โต๊ะจัง พาสาว ๆ ไปพักร้อนปลายปีถึงอิตาลี กับแคมเปญชวนเฉลิมฉลอง ‘Wonderful Italian Taste with Toh Chan’ สัมผัสเมนูหลากหลายสไตล์อิตาลี โดยเน้นการสร้าง Brand Engagement กับลูกค้ารุ่นใหม่ กลุ่มเพื่อน ครอบครัว และพนักงานออฟฟิต, อากะ (AKA) ต่อยอดความสนุกในแคมเปญปลายปี AKA K-Series กินเกาให้เมามันส์ อัดความสุขแบบไม่อั้น ด้วย AKA Lemon Bomb หรือมะนาวช็อตบอมบ์ เครื่องดื่มปาร์ตี้สุดเกา พร้อมจัดหนักเมนูเกาหลีกว่า 36 เมนู, ทางฝั่งแบรนด์ไทย ตำมั่ว (Tummour) ส่งแคมเปญปลายปีตอกย้ำความมั่วระดับตำนาน เน้นการสร้าง Experience ใหม่ให้กับลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่ กับแคมเปญ ‘โคตรแซ่บ โคตรคุ้ม’ เสิร์ฟ 3 เมนู ตำโคตรมั่ว, ตำโคตรเจ้าสมุทร, ตำโคตรหมูยอ จัดหนัก จัดเต็ม แบบไม่หวงเครื่อง มาพร้อมโปรโมชั่นแลกซื้อเมนูหมูสับปลาร้าทรงเครื่อง 1 จาน เพียง 69 บาท (จากราคาปกติ 135 บาท) เมื่อซื้อเมนูตำโคตร (ที่ร่วมรายการ), เขียง (Khiang) ขอส่งเมนูใหม่แบบย้อนวันวาน วัยเด็ก เป็นแคมเปญส่งท้ายปีแบบน่ารัก ๆ กับ ‘มาม่าหน้าโรงเรียน’ 3 เมนูเด็กเส้น เครื่องแน่น ได้แก่ มาม่าหน้าโรงเรียน, มาม่าปลากระป๋อง, มาม่าต้มยำทรงเครื่อง
นอกเหนือจากกลยุทธ์การตลาดส่งท้ายปีของทุกแบรนด์ในเครือ การขยายสาขาก็เป็นเป้าหมายหลักของ เซ็น กรุ๊ป ด้วยเช่นกัน ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่รวม 24 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 18 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 5 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 1 สาขา หากนับรวมทั้งปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่จำนวนทั้งหมด 57 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 38 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 17 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 2 สาขา
โดยในช่วงไตรมาส 4 ตุลาคม - ธันวาคม ปี 2566 มีการเปิดสาขาใหม่ดังนี้
ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทมีสาขาร้านอาหารทั้งสิ้น 341 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง 182 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 149 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 10 สาขา
นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีการดำเนินการด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการลดปริมาณขยะ ด้วยการคัดแยกขยะและนำกลับมาใช้ประโยชน์หรือนำกลับมารีไซเคิล และเริ่มมีการสนับสนุนวัตถุดิบ ไข่ไก่ Cage Free โดยเริ่มนำมาใช้กับ ร้าน เซ็น เรสเตอร์รอง, ร้าน อากะ และ ร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล สาขา เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่, ร้าน เซ็น เรสเตอร์รอง สาขา เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล อีก 20 สาขาในกรุงเทพฯ ด้วย
คิงมารีน ฟู้ดส์ ธุรกิจนำเข้าวัตถุดิบอาหารทะเล อาหารแปรรูป หนึ่งในเครือ เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัท ฮ๊กโกะ เกียวเร็น จำกัด ธุรกิจส่งออกวัตถุดิบอาหารทะเลจากญี่ปุ่น จัดกิจกรรม Taste of Scallop, Taste of Japan ชูวัตถุดิบยอดฮิต หอยโฮตาเตะพรีเมียมที่นำเข้าจากญี่ปุ่น โดย ‘กลุ่มอาหารทะเล’ นอกจากปลาแซลมอนที่เป็นวัตถุดิบที่ถูกนำเข้าเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในไทยเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือวัตถุดิบ หอยโฮตาเตะ ที่มีความต้องการของตลาดที่สูงขึ้น โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา คิงมารีน ฟู้ดส์ มีอัตราการนำเข้าวัตถุดิบหอยโฮตาเตะมากกว่า 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และในปี 2567 คาดว่าจะมีการนำเข้าที่มากขึ้นอีกกว่าเท่าตัวเช่นเดิม
คุณธีรทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ และคุณณัฐฐศศิ บำเหน็จพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คิงมารีน ฟู้ดส์ จำกัด เผยว่า “ทางบริษัทให้ความสำคัญกับการคัดเลือกวัตถุดิบในทุกประเภท จากแหล่งนำเข้าวัตถุดิบที่ดีที่สุด คุณภาพของวัตถุดิบที่มีมาตรฐาน ราคาที่เหมาะสม และคำนึงถึงปัจจัยการผลิตในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดเป็นสำคัญ ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักของทางบริษัท คือกลุ่มร้านอาหารในประเทศไทย สูงถึง70% รองลงมาคือกลุ่มธุรกิจค้าปลีก อาทิ Department Store, Hypermarket, Supermarket และกลุ่มธุรกิจโรงแรม ซึ่งล่าสุดก็มีการจัดส่งสินค้าเพื่อวางจำหน่ายที่ศูนย์ค้าส่ง Go Wholesale ทุกสาขาด้วย
ทั้งนี้เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าในกลุ่ม B2B และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบหอยโฮตาเตะที่นำเข้าจากญี่ปุ่นให้มากยิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรม Taste of Scallop, Taste of Japan พบปะผู้ประกอบการในไทยกว่า 25 ราย โดยได้รับเกียรติจาก คุณฮิเดนาริ ยามายะ ประธานกรรมการบริษัท และคุณนาโอยะ ฟูจิคามิ ผู้จัดการ บริษัท ฮ๊กโกะ เกียวเร็น จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทส่งออกวัตถุดิบที่ญี่ปุ่นที่จะมาแชร์ความรู้และประสบการณ์ทางด้านวัตถุดิบหอยโฮตาเตะที่มีมากกว่า 74 ปี พิเศษเฉพาะในงาน นอกจากนี้ยังมีการรังสรรค์ 7 เมนูพิเศษ เพื่อชูจุดเด่นของวัตถุดิบหลัก หอยโฮตาเตะ สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังมองหาไอเดียใหม่ ๆ ในการรังสรรค์เมนูอาหารด้วย
7 เมนูพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น ชูวัตถุดิบหลัก หอยโฮตาเตะ เทรนด์วัตถุดิบยอดฮิตนำเข้าจากญี่ปุ่น
โฮตาเตะที่ดีที่สุดต้องนำเข้าจากฮอกไกโดเท่านั้น เพราะเป็นแหล่งวัตถุดิบที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้คุณภาพของวัตถุดิบดี มีสีขาวนวลเป็นธรรมชาติ มีรสชาติหวาน เนื้อเฟิร์มแน่น สม่ำเสมอ ในส่วนของโรงงานจากญี่ปุ่นที่ทางบริษัทเลือก ยังมีมาตรฐาน มีกรรมวิธีในการรักษาความสดใหม่ ทำความสะอาดวัตถุดิบได้ดี มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยก่อนส่งออกแน่นอน อีกทั้งเมื่อนำมาประกอบเป็นเมนูอาหารยังมีรสชาติที่อร่อยด้วย
เริ่มที่ Hotate Yuzu Carpaccio ออเดิร์ฟเปิดหัวด้วยสลัดสไตล์ยุโรป ผสมกับหอยฮอกเกโดโฮตาเตะ ที่ร้านสไตล์ยุโรปในญี่ปุ่นนิยมเสิร์ฟกัน โดยเป็นเมนูที่คนญี่ปุ่นรู้จักกันอย่างดีจะให้ความรู้สึกที่เบา มีรสชาติเปรี้ยวนิด ๆ กระตุ้นต่อม เพิ่มความอยากอาหาร เลือกใช้ยูซุ เพิ่มมิติให้มีรสชาติเปรี้ยวหอมเป็นเอกลักษณ์บ่งบอกความเป็นญี่ปุ่น ท็อปด้วยอิคุระเกรดดี
Hotate Lobster & Kani Miso Yaki เมนูพิเศษที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ โดยประกอบด้วยคานิมิโซะ ล็อบสเตอร์มิโซะ เอามาปรับรสชาติให้เบาลงหน่อย ทานคู่กับโฮตาเตะท็อปปิ้งด้วยไข่ปลาแซลมอน
Hotate Duo Kushiyaki เมนูนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Izakaya หรือ ร้านดื่มสไตล์ญี่ปุ่น เมนูส่วนใหญ่จะเน้นสะดวก ทานคู่กับเครื่องดื่มของญี่ปุ่นได้อย่างกลมกลืน มี 2 รสชาติคือเมนูชื่อดังจากเกาะฟุคุโอกะ Hotate Mentaiko Kushiyaki หอยโฮตาเตะย่างแล้วท็อปด้วยซอสเมนไทโกะ เมนูที่ 2 คือ Hotate Mala (หม่าล่า) เมนูนี้ถูกประยุกต์จากเมนูที่คนไทยนิยม ทำเป็นซอสหม่าล่า ทานคู่กับโฮตาเตะ รสชาติเข้ากันได้เป็นอย่างดี
Fried Truffle Cream Udon เมนูนี้ได้แรงบันดาลใจจากเมนูอาหารฝรั่งจากร้านอาหารฝรั่งในเมืองใหญ่ ๆ อย่างโตเกียว, โอซาก้า, โกเบ โดยจะเลือกใช้เห็ดทรัฟเฟิล นำมาประยุกต์เข้ากับวัตถุดิบ หอยโฮตาเตะ ทำเป็นเมนูโฮตาเตะคัตซึ กรอบนอก เนื้อด้านในหวานฉํ่า ทานคู่กับทรัฟเฟิลซอส
Hotate & Ebi Tonkotsu Somen เมนูทงคตซึราเมง หรือ ราเมงซุปกระดูกหมู เดิมทีเป็นเมนูยอดนิยมจากเกาะคิวชู ซึ่งร้านทงคตซึราเมงที่คิวชูจึงนำเอาโฮตาเตะมาทำเป็นท็อปปิ้ง เลือกใส่เส้นโซเมงให้ทานง่าย ผสมกับความหวานอร่อยจากนํ้าซุปกระดูกหมูที่ถูกเคี่ยวมากกว่า 2 วัน ผสมกับความหอมหวานของหอยโฮตาเตะ และกุ้งอากะเอบิ
Uni Hotate Yaki with Uni sauce อุนิซอส ที่ทำให้นึกถึงเกาะโอกินาว่า ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ใครที่เคยไปจะเห็นร้านอาหารหลาย ๆ ร้าน นำอุนิซอสมาผสม หรือกระทั่งร้านปิ้งย่างในตลาดสด เอาอุนิซอสมาราดใส่ กุ้ง หอย แล้วนำเสิร์ฟ เมนูนี้จึงเอาอุนิทำเป็นซอส ทานคู่กับหอยโฮตาเตะย่าง ท็อปด้วยอุนิอีกทีด้านบน
Hotate Mentaiko & Kani Miso Don วัตถุดิบเลื่องชื่อแห่งเกาะคิวชูที่คนญี่ปุ่นคิดถึงเป็นอับดับแรก ๆ คือ เมนไทโกะ หรือ ไข่ปลาค็อดปรุงรส ผสมกับรสชาติคานิมิโซะและมีข้าวผัดอยู่ด้านล่างลองคลุกรวมกันทั้งหมด จะได้รสชาติความอร่อยแบบไม่ซํ้าใคร
“กิจกรรมที่เกิดขึ้นนี้สามารถชูจุดเด่นของวัตถุดิบหอยโฮตาเตะ ขยายการรับรู้ในวงกว้าง อีกทั้งยังสามารถการันตีคุณภาพของวัตถุดิบที่ทางบริษัทตั้งใจคัดสรรและใส่ใจในทุกรายละเอียด มั่นใจในคุณภาพของวัตถุดิบได้อย่างแน่นอน” คุณธีรทัศน์ และคุณณัฐฐศศิ กล่าวทิ้งท้าย