TH
ข่าวสารล่าสุด
ตำมั่ว x สิงโต นำโชค เปิดตัวเพลงและมิวสิกวิดีโอ “โคเล โคเล่ มาเด้อกินเข่า” ต้อนรับวันออกพรรษานี้

เซ็น กรุ๊ป จับมือ “สิงโต นำโชค” เปิดตัวเพลงและมิวสิกวิดีโอ

“โคเล โคเล่ มาเด้อกินเข่า” ต้อนรับวันออกพรรษานี้

ชวนคนไทยมาสนุก มาสังสรรค์ และอร่อยไปกับรสชาติอีสานตัวจริง

 

บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็น กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจอาหารครบวงจรของไทย นำโดย คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด จับมือกับ คุณสิงโต นำโชค นักร้องและนักดนตรีอิสระชื่อดัง เปิดตัวเพลงและมิวสิกวิดีโอใหม่ล่าสุด “โคเล โคเล่ มาเด้อกินเข่า” ในวันที่ 30 กันยายน 2568 ซึ่งตรงกับ วันออกพรรษา ช่วงเวลาแห่งความสุขที่คนไทยทั่วประเทศรวมตัวกันทำบุญ สังสรรค์ และใช้เวลาพร้อมหน้ากับครอบครัวและเพื่อนฝูง
 
ภายใต้การบริหารของเซ็น กรุ๊ป ตำมั่ว ร้านอาหารอีสานที่อยู่ในใจคนไทยมายาวนาน และ รู้ลึกรู้จริงเรื่องส้มตำ เตรียมสร้างสีสันใหม่ด้วยซิงเกิลพิเศษนี้ ซึ่งเรียบเรียงและขับร้องโดย สิงโต นำโชค พร้อมท่อนแร็ปสนุกสนาน ถ่ายทอดความเป็นอีสานร่วมสมัย ผ่านทำนองที่ฟังง่าย ติดหู และเนื้อหาที่เชิญชวนให้ทุกคนมาลิ้มรสความอร่อยกับเมนูอีสานยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็น ส้มตำรสแซ่บ ลาบ น้ำตก และเมนูพื้นถิ่นอีสานอีกมากมาย
 
หัวใจสำคัญของเพลงนี้ยังสอดแทรกเอกลักษณ์ “น้ำปลาร้าตำมั่ว” สูตรเฉพาะที่ครองใจคนไทยมานาน เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภครับรู้ว่า ตำมั่วและน้ำปลาร้าตำมั่ว คือส่วนหนึ่งของเมนูอาหารยอดนิยมของคนไทยและชาวอีสาน และตอกย้ำการเป็น Top of Mind ร้านอาหารอีสานที่คนไทยทั่วประเทศนึกถึงเมื่อต้องการสัมผัสรสชาติอีสานแท้
 
นอกจากนี้ ตำมั่วยังมาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ “โปรแซ่บ 10 เมนูอ้ายสิงโต กับโค้กซ่าส์” ให้ลูกค้าได้ลองเมนู 10 แนะนำของพี่สิงโต เมนูอร่อยเด็ดที่คนอีสานรักบ้านเกิดคอนเฟิร์มแล้วว่าเด็ด ได้แก่ ตำมั่ว, ปีกไก่ทอด, ตำไทย, หมูย่างแจ่วหอม, ลาบหมู, ต้มแซ่บซี่โครงอ่อน, ผัดหมี่มั่ว, ลาบเป็ด, ยำมั่ว, และไส้กรอกอีสาน เมื่อสั่งครบ 5 หรือ 8 เมนูจาก 10 เมนูนี้ รับสิทธิ เครื่องดื่มโค้กรีฟิลไม่อั้น และเมนูพิเศษ ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. – 31 ธ.ค. 2568 เฉพาะร้านตำมั่ว ที่ร่วมรายการเท่านั้น
 
คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า“เพลง ‘โคเล โคเล่ มาเด้อกินเข่า’ เป็นสัญลักษณ์ของความสนุกและการรวมตัวกันในช่วงเทศกาล เราต้องการตอกย้ำว่าตำมั่วไม่เพียงเป็นร้านอาหารอีสานที่คนไทยไว้วางใจ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและความสุขในทุกมื้ออาหารของคนไทย”
 
มิวสิกวิดีโอ “โคเล โคเล่ มาเด้อกินเข่า” จะเผยแพร่พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 30 กันยายน 2568 ทาง YouTube @SINGTONUMCHOK, Spotify และทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของ ตำมั่ว ต้นตำรับ พร้อมกิจกรรมออนไลน์ให้แฟน ๆ ได้ร่วมสนุกและลุ้นของรางวัลพิเศษ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: ตำมั่ว ต้นตำรับ
25 กันยายน 2568
อ่านเพิ่มเติม
23 มกราคม 2562
 บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป หรือ ZEN เตรียมเสนอขาย IPO 75 ล้านหุ้น หลังสำนักงาน ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง ชูจุดเด่นธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสที่มีทั้งร้านอาหารและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ บริการจัดส่งอาหาร รับจัดเลี้ยง บริหารร้านอาหาร อาหารค้าปลีก หวังระดมทุนขยายสาขาร้านอาหาร ปรับปรุงสาขาเดิมและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ตั้งเป้าดันยอดขายเพิ่มขึ้นผ่านการรุกขยายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (IPO) ล่าสุดสำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งแล้ว

 ปัจจุบัน บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 225 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 75 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ ดังนี้ (1) ขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ได้แก่ การขยายและปรับปรุงสาขาร้านอาหาร (2) ชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ และ (3) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

ทั้งนี้ หากสำนักงาน ก.ล.ต. อนุมัติให้เสนอขายหุ้น IPO และแบบไฟลิ่งมีผลใช้บังคับ จะกำหนดวันที่เสนอขายหุ้น IPO และคาดว่าจะนำ บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในไตรมาส 1 ปีนี้  

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) หรือ ZEN กล่าวว่า กลุ่มบริษัทฯ มีจุดเด่นด้านการเป็นผู้ให้บริการร้านอาหาร (Food Services) อย่างเต็มรูปแบบ โดยไม่ได้มีเพียงธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจแฟรนไชส์เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการดำเนินธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการและเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายได้อย่างครอบคลุมในทุกระดับ เช่น ธุรกิจบริการจัดส่งอาหาร (Delivery Business) และ ธุรกิจอาหารค้าปลีก (Retail Business) เป็นต้น

โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ลงทุนเตรียมความพร้อมด้านระบบบริหารจัดการภายในองค์กร ทั้งการเพิ่มบุคลากรลงทุนด้านระบบสารสนเทศเพื่อรองรับการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลกระทบกับค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามในปัจจุบันบริษัทฯ มีความพร้อมในการขยายธุรกิจ โดยสามารถใช้ฐานฝ่ายงานสนับสนุนที่มีการลงทุนเตรียมความพร้อมไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ เพื่อรองรับการเติบโตได้อย่างเต็มที่ 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ZEN กล่าวว่า บริษัทฯ ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจร้านอาหารรวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ โดยปัจจุบัน สามารถแบ่งธุรกิจหลักเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) ธุรกิจร้านอาหาร (2) ธุรกิจแฟรนไชส์ และ (3) ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจบริการจัดส่งอาหาร (Delivery) และบริการจัดเลี้ยง (Catering) ธุรกิจให้บริการบริหารร้านอาหาร (Restaurant Management) และบริการที่ปรึกษาเกี่ยวกับร้านอาหาร (Restaurant Consultancy) และธุรกิจอาหารค้าปลีก (Retail Business) เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุง (Ready-to-Cook) และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน (Ready-to-Eat) ซึ่งเป็นการนำผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากการจำหน่ายในร้านอาหารมาต่อยอดเพื่อวางจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคทั่วไป

ปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ มีร้านอาหารภายใต้การดำเนินงานรวม 12 แบรนด์ แบ่งเป็น กลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น 6 แบรนด์ ได้แก่ (1) ZEN ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม (Authentic Japanese Food) (2) Musha by ZEN ร้านอาหารญี่ปุ่นแนวใหม่ (3) Sushi Cyu Carnival Yakiniku ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยม (4) AKA ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น (Yakiniku) (5) Testu ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยม และ (6) On the Table Tokyo Café ร้านอาหารประเภทไลฟ์สไตล์ 

และกลุ่มร้านอาหารไทย 6 แบรนด์ ได้แก่ (1) ตำมั่ว ร้านอาหารไทย-อีสาน (2) ลาวญวน ร้านอาหารไทย-อีสานและเวียดนาม (3) แจ่วฮ้อน ร้านอาหารประเภทสุกี้ลาวหรือจิ้มจุ่ม  (4) เฝอ ร้านก๋วยเตี๋ยวสไตล์เวียดนาม (5) de Tummour ร้านอาหารไทย-อีสานแบบพรีเมี่ยม และ (6) เขียง (Khiang by tummour) ร้านอาหารไทยตามสั่งหรือ Street Food แบรนด์ใหม่ที่นำเสนออาหารไทยจานเดียวยอดนิยมเพื่อเข้าถึงลูกค้าทั่วไป เช่น ข้าวผัดกระเพราหมูสับ ฯลฯ ล่าสุด ร้านเขียงได้เปิดสาขาแรกในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาเจษฎาบดินทร์ จังหวัดนนทบุรี  ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 บริษัทฯ มีร้านอาหารภายใต้แบรนด์ของตนทั้งในไทยและต่างประเทศรวม 255 สาขา แบ่งเป็นกลุ่มแบรนด์ร้านอาหารไทย 167 สาขา และกลุ่มแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น 88 สาขา ซึ่งในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นร้านอาหารที่กลุ่มบริษัทฯ เป็นเจ้าของ 110 สาขา และให้สิทธิแฟรนไชส์ 145 สาขา

“บริษัทฯ ตั้งเป้าเป็นผู้นำของประเทศในธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสและกำหนดวิสัยทัศน์องค์กรก้าวเป็นผู้นำธุรกิจอาหารที่ได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยในปี 2562  วางแผนงานขยายร้านอาหารของกลุ่มบริษัทฯ 36 สาขา และขยายสาขาแฟรนไชส์ 87 สาขา และในปี 2563 วางแผนงานขยายร้านอาหารของกลุ่มบริษัทฯ 50 สาขา และขยายสาขาแฟรนไชส์ 175 สาขา” นายบุญยง กล่าว 

นางยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) หรือ ZEN กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 (มกราคม – กันยายน 2561) มีรายได้รวม 2,226.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,826.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 108.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 49.2 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจแฟรนไชส์
17 มกราคม 2562
บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (“บริษัทฯ”) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจ Food Service โชว์ความพร้อมด้านระบบบริหารการจัดการภายในองค์กร ตั้งแต่เสริมทีมบุคลากร ระบบซัพพลายเชน และบัญชี รองรับแผนขับเคลื่อนธุรกิจเดินหน้าเต็มตัว ย้ำชัดการรุกธุรกิจต่อจากนี้มีความพร้อมเนื่องจากได้ลงทุนในส่วนงานสนับสนุนแล้ว ลุยเดินหน้าขยายแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่น AKA ในเมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา และรุกเปิดตัวร้านอาหารไทยแบรนด์ใหม่ ‘เขียง’ (Khiang by tummour) ขายอาหารจานเดียวเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่เป็นตลาดแมส

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจ Food Service เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีศักยภาพและความพร้อมรุกขยายธุรกิจ Food Service อย่างเต็มที่ หลังจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้เตรียมพร้อมระบบบริหารจัดการภายในองค์กร ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น เช่น การเพิ่มบุคลากรส่วนสนับสนุน การลงทุนด้านระบบสารสนเทศเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น ระบบบัญชี และระบบซัพพลายเชน เพื่อรองรับแผนขับเคลื่อนธุรกิจที่ต่อจากนี้จะเน้นรุกขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศของกลุ่ม ZEN เพื่อผลักดันขีดความสามารถและผลักดันความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ

ZEN มีการขยายการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งจากแบรนด์ที่พัฒนาโดยตนเองและการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากเข้าซื้อกิจการ โดยตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2534 ZEN มีการพัฒนาแบรนด์ร้านอาหารใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น AKA, On The Table, Tetsu และ Musha และล่าสุดบริษัทฯ เพิ่งเปิดตัวแบรนด์ร้านอาหารน้องใหม่ภายใต้ชื่อ “เขียง” ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยตามสั่ง หรือ Street Food เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตที่เร่งรีบของคนไทย

นอกจากนี้ ในปี 2559 ZEN ได้เข้าซื้อกิจการในเครือแบรนด์ตำมั่วซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารไทยอีสานและได้นำแพลตฟอร์มการดำเนินธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ดังกล่าวมาพัฒนารองรับแผนการขยายดำเนินธุรกิจ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ZEN ได้ลงทุนในส่วนงานสนับสนุน เช่น ระบบบัญชี และระบบซัพพลายเชน เพื่อยกขีดความสามารถการแข่งขันในการทำธุรกิจ Food Service ต่อยอดการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้แบรนด์ AKA และ On the Table ในต่างประเทศ โดยหลังจากที่มีการเปิดแฟรนไชส์ร้านอาหาร AKA และ On the Table ในประเทศเมียนมาร์และกัมพูชาไปแล้ว ล่าสุดในเดือนมกราคม 2562 เตรียมเปิดสาขาแฟรนไชส์แห่งใหม่ในเมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

“เราใช้เวลาเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรและพัฒนาระบบงานต่างๆ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จึงกระทบกับค่าใช้จ่ายการบริหารที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เชื่อว่า ณ ปัจจุบันบริษัทฯ มีความพร้อม เพื่อรองรับแผนการขยายธุรกิจร้านอาหารที่วางไว้ โดยสามารถใช้ฐานฝ่ายงานสนับสนุนที่มีการลงทุนไว้แล้วเพื่อรองรับการเติบโตได้” นายบุญยง กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ZEN กล่าวว่า ธุรกิจของบริษัทฯ มีจุดแข็งที่แตกต่างจากผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารส่วนใหญ่ โดย ZEN เป็นผู้พัฒนาแบรนด์ร้านอาหารเอง จึงไม่มีค่าใช้จ่ายในการซื้อแฟรนไชส์จากต่างประเทศ และในขณะเดียวกันยังสามารถสร้างรายได้จากการขายแฟรนไชส์อีกด้วย นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีธุรกิจอาหารค้าปลีก (Food Retail) ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต โดยได้นำผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากการขายที่ร้านอาหาร อาทิ น้ำปลาร้าปรุงรส หมี่มั่ว น้ำจิ้มแจ่ว แจ่วบองฯลฯ มาต่อยอดพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุง (Ready-to-Cook) และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน (Ready-to-Eat) ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ เพื่อวางจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคทั่วไป

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนงานขยายสาขาในทำเลใหม่ๆ เช่น ภายในสถานีบริการน้ำมัน แหล่งชุมชน จากเดิมที่มุ่งเน้นการขยายสาขาภายในศูนย์การค้า เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและมีแผนพัฒนาร้านอาหารในรูปแบบ Micro Format ซึ่งเป็นร้านอาหารที่มีพื้นที่ร้านขนาดเล็ก เมนูอาหารไม่ซับซ้อน และใช้เงินลงทุนไม่สูง เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ Musha ที่ปรับเปลี่ยนเมนูจากแบรนด์ร้านอาหาร ZEN โดยเน้นเมนูอาหารเป็นแบบอาหารจานเดียวในราคาที่ย่อมเยา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคและครอบคลุมกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง และร้านอาหารไทยแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ ‘เขียง’ (Khiang by tummour) ซึ่งนำเสนอเมนูอาหารไทยจานเดียวยอดนิยม เช่น ข้าวผัดกระเพราหมูสับ ข้าวหมูกระเทียม ฯลฯ ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่เป็นตลาดแมสได้ โดยเปิดให้บริการสาขาแรกเป็นที่เรียบร้อยภายในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาเจษฎาบดินทร์ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งจะส่งผลดีต่อโอกาสการเติบโตของบริษัทฯ ในระยะยาว  
10 มกราคม 2562
ร้านอาหารญี่ปุ่น ZEN จัดของขวัญเอาใจน้องๆ หนูๆ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2562
เพียงพาคุณหนูๆ มาอิ่มอร่อยกับหลากหลายเมนูที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ZEN รับฟรี! สมุดภาพระบายสีพร้อมสี ให้น้องๆ ได้ร่วมผจญภัยใต้ท้องทะเลกับเหล่าปลาน้อยนักสำรวจ ในวันเสาร์ที่ 12 และวันอาทิตย์ที่ 13 มกราคมนี้เท่านั้น (1 ชุดต่อบิล) ณ ร้านอาหารญี่ปุ่น ZEN ทุกสาขา

*สงวนสิทธิ์ รับฟรีสมุดภาพพร้อมสี เฉพาะเด็กที่มีความสูงไม่เกิน 130 ซม. อายุต่ำกว่า 12 ปี (จำนวนจำกัด)
 
20 ธันวาคม 2561
 “มุฉะ” (Musha) ร้านอาหารญี่ปุ่น เปิด 2 สาขาใหม่ ที่เมเจอร์ รัชโยธิน และ แปซิฟิก พาร์ค ศรีราชา ร้านอาหารญี่ปุ่นสายพันธุ์ใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ “เติมข้าวไม่อั้น” เสิร์ฟข้าวญี่ปุ่นแท้ หุงร้อนๆ กับเครื่องล้นจานที่ปรุงด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูตรเฉพาะของมุฉะ

พิเศษ! เติมความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ “มุฉะ” จัดเมนูยอดฮิตเสิร์ฟเป็นเซต New Year Happiest Celebration” ในราคาพิเศษ กับ “เซตคู่ลั้นลา” (New Year Duo Set)  ราคา 369 บาท จาก 405 บาท ในเชต ประกอบด้วย กะเพราซาบะกระทะร้อน เกี๊ยวซ่า ข้าวหน้าคอหมูย่าง ข้าวญี่ปุ่น ไข่ตุ๋น ซุปไข่ และชาเขียวเย็น “เชตปีใหม่ฮาเฮ” (New Year Party Set) ราคา 499 บาท จาก 580 บาท เสิร์ฟจัดหนัก กับข้าวผัดกระเทียมไก่เทริยากิ เกี๊ยวซ่า สเต็กซาบะกระทะร้อน หมูทงคัทสึ ข้าวญี่ปุ่น ไข่ตุ๋น ซุปไข่ และชาเขียวเย็น

ร่วมฉลองความสุข  “New Year Happiest Celebration” ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มกราคม 2562 ที่ “มุฉะ” สาขาบิ๊กซี นครปฐม ชั้น 1 , สาขาแหลมทอง บางแสน ชั้น 1 , สาขาเมเจอร์รัชโยธิน ชั้น 2 , และ สาขาแปซิฟิก พาร์ค ศรีราชา ชั้น 3
15 ธันวาคม 2561
บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ “เขียง” จัดเสิร์ฟอาหารจานด่วนกับเมนูคุ้นเคยของคนไทย ประเดิมสาขาแรก ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. เจษฎาบดินทร์ จ.นนทบุรี  โดย “เขียง” ได้คัดเมนูยอดนิยมของร้านอาหารตามสั่ง เช่น ข้าวผัดกะเพราหมูสับ ข้าวหมูกระเทียม ข้าวผัดโบราณ และอาหารคุณภาพอีกมากมาย นำมายกระดับด้วยวัตถุดิบคุณภาพ และใส่ใจในทุกขั้นตอนการปรุงด้วยสูตรเด็ดเฉพาะ เพื่อให้ได้รสชาติที่แท้จริงของแต่ละเมนู ที่ทั้งถูกปาก โดนใจ อิ่มท้อง ในราคาคนไทย

เริ่มด้วยเมนูแนะนำ  “ข้าวผัดกะเพราหมูสับ” ที่ใช้กะเพราป่า พริกแห้ง ผัดเข้าด้วยกันจนได้ที่ ส่งกลิ่นหอม ฉุน ตามแบบฉบับกะเพราหมูสับอย่างแท้จริง ราดมาบนข้าวหอมมะลิร้อนๆ เสิร์ฟพร้อมพริกน้ำปลา “ข้าวหมูกระเทียม” เนื้อหมูที่หมักด้วยเครื่องปรุงและเครื่องเทศจนเข้าเนื้อ ผัดแบบมีน้ำขลุกขลิกโปะหน้าด้วยไข่ดาวไม่สุกมาก กินคู่แตงกวาสดหั่นเฉียง “ผัดซีอิ๊ว” ที่ผัดจนได้กลิ่นหอมของกระทะ ไม่มันเยิ้ม ใส่คะน้าที่คัดแบบก้านกรอบ “ไข่ยู่ยี่” อีกหนึ่งเมนูขวัญใจของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และที่ขาดไม่ได้สำหรับร้านอาหารจานด่วน คือ “ข้าวผัดโบราณ” ข้าวเมล็ดสวยผัดกับคะน้า มะเขือเทศ หมูหมักชิ้นโต ซีอิ๊วดำ นอกจากนี้ยังมีเมนูจานด่วนอื่นๆ ที่จัดจ้าน ถึงเครื่อง ถึงใจ พร้อมเสิร์ฟแล้ววันนี้ที่ “เขียง” ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. เจษฎาบดินทร์ จ.นนทบุรี
 
6 พฤศจิกายน 2561
‘บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป’ ยื่นไฟลิ่งเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เตรียมเสนอขาย IPO
75 ล้านหุ้น หวังระดมทุนขยายและปรับปรุงสาขาร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ชูจุดเด่นเป็นผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร แฟรนไชส์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ อาทิ ธุรกิจอาหารค้าปลีก โดย ณ 30 มิ.ย. 2561 มีร้านอาหารที่เปิดดำเนินการภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ ในไทยและต่างประเทศรวม 237 สาขา จากทั้งหมด 11 แบรนด์ พร้อมแต่งตั้ง บล.กสิกรไทย เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) หรือ ZEN  เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อเสริมศักยภาพรองรับแผนงานการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ดำเนินธุรกิจร้านอาหารมาอย่างยาวนานกว่า 27 ปีในประเทศไทย โดยกลุ่มบริษัทฯ ตั้งเป้าผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 10,000 ล้านบาทภายในปี 2566 และมีวิสัยทัศน์องค์กรก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจอาหารที่ได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ที่เกี่ยวข้อง 

ปัจจุบัน บริษัทฯ ประกอบธุรกิจเข้าลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ดำเนินธุรกิจร้านอาหารรวมถึงธุรกิจ ที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ ผ่านบริษัทย่อย 7 บริษัทที่ถือหุ้น 100% ซึ่งสามารถแบ่งธุรกิจหลักออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1. ธุรกิจร้านอาหารภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ 2. ธุรกิจแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ และ 3. ธุรกิจ
ที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ ประกอบด้วย ธุรกิจบริการจัดส่งอาหาร (Delivery) และบริการจัดเลี้ยง (Catering) ธุรกิจให้บริการบริหารร้านอาหาร (Restaurant Management) และที่ปรึกษาเกี่ยวกับร้านอาหาร (Restaurant Consultancy) และธุรกิจอาหารค้าปลีกผ่านช่องทางจำหน่ายต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุง (Ready-to-Cook) และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน (Ready-to-Eat) จึงทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีข้อได้เปรียบในการแข่งขันจากการมีแบรนด์ร้านอาหารที่หลากหลาย มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งมีการขยายเข้าสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ เพื่อการเติบโตในระยะยาว 

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากลุ่มบริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านอาหารไทยภายใต้การดำเนินงานรวม 11 แบรนด์ แบ่งเป็น แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น 6 แบรนด์ ได้แก่ 1. ZEN ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม (Authentic Japanese Food) 2. Musha by ZEN ร้านอาหารญี่ปุ่นแนวใหม่ 3. Sushi Cyu Carnival Yakiniku ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยม  4. AKA ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น (Yakiniku) 5. Testu ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยม และ 6. On the Table Tokyo Café ร้านอาหารประเภทไลฟ์สไตล์ 

และกลุ่มแบรนด์ร้านอาหารไทย 5 แบรนด์ ได้แก่ 1. ตำมั่ว ร้านอาหารไทย-อีสาน 2. ลาวญวน ร้านอาหารไทย-อีสานและเวียดนาม 3. แจ่วฮ้อน ร้านอาหารประเภทสุกี้ลาวหรือจิ้มจุ่ม  4. เฝอ ร้านก๋วยเตี๋ยวสไตล์เวียดนาม และ 5. de Tummour ร้านอาหารไทย-อีสานแบบพรีเมี่ยม โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 มีร้านอาหารที่เปิดดำเนินการภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 237 สาขา แบ่งเป็นกลุ่มแบรนด์ร้านอาหารไทย 156 สาขา และกลุ่มแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น 81 สาขา  ซึ่งเป็นร้านอาหารที่กลุ่มบริษัทฯ เป็นเจ้าของจำนวน 101 สาขา ที่เหลือเป็นสาขาแฟรนไชส์จำนวน 136 สาขา

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ZEN กล่าวว่า กลุ่มบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้ให้บริการฟู้ดเซอร์วิส (Food Service) อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อตอบสนองการเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตประจำวันของผู้บริโภคในทุกระดับ ทั้งกลุ่มที่มีพฤติกรรมชื่นชอบการทานอาหารนอกบ้านและกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์นิยมทำอาหารรับประทานเองภายในครอบครัว โดยกลุ่มบริษัทฯ จะอาศัยจุดแข็งด้านแบรนด์ร้านอาหารที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ตลอดจนการให้บริการด้านฟู้ดเซอร์วิสที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมในทุกเซกเมนต์เพื่อผลักดันการเติบโต   นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีแผนขยายสาขาและปรับปรุงร้านอาหาร นำเสนอแบรนด์ร้านอาหารใหม่ๆ รวมถึงมองโอกาสการลงทุนเข้าซื้อกิจการเพื่อรองรับเป้าหมายการขยายธุรกิจในอนาคต

นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (IPO) เป็นที่เรียบร้อย

ปัจจุบัน บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 225 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 75 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้

ทั้งนี้ กลุ่มเซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป มีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ได้แก่ การขยายและปรับปรุงสาขาร้านอาหาร การปรับปรุงพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน