TH
ข่าวสารล่าสุด
เซ็น กรุ๊ป Q4 ปี 66 รายได้รวม 1,062 ล้านบาท อัพไซด์ค้าปลีกโต 72% ดันยอดรวมปี 66 แตะ 3,945 ล้านบาท

บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โชว์งบไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดดเด่นที่ธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตขึ้นกว่า 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรสและธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้ภาพรวมของปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 3,945 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 532 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 16% จากปี 2565 และบริษัทมีกำไรสุทธิรวมทั้งกลุ่มบริษัท 177 ล้านบาท

คุณยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ทางด้านเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2566 โดยรวมอุปสงค์ในประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่อุปสงค์ต่างประเทศชะลอตัวจากการส่งออกภาคบริการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวสัญชาติอื่น ทำให้รายรับการท่องเที่ยวปรับลดลง 

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท ในไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจร้านอาหารในช่องทางรับประทานอาหารที่ร้านเติบโตขึ้น 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการปรับรูปแบบธุรกิจ การพัฒนาแบรนด์ และการออกโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มาใช้บริการให้มากที่สุด และจากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรสและธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้ธุรกิจอาหารค้าปลีกเติบโตขึ้น 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน”

ในส่วนของการทำการตลาดในช่วงปลายปีก็สร้างความคึกคักให้กับตลาดช่วงปลายปีไม่น้อยเลยทีเดียว ฝั่งร้านอาหารแบรนด์ญี่ปุ่น เริ่มที่ เซ็น เรสเตอร์รอง ชูกลยุทธ์การตลาดส่งท้ายปี มูเก็ตติ้ง (Muketing) ต้อนรับปีมังกรทอง เสริมพลังด้วยการทานอาหารที่ดีมีคุณภาพ มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ใหม่และเข้าถึงผู้บริโภคแบบ Emotional กับกลุ่มเป้าหมาย Gen Y - Gen Z,  ต่อมาที่ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี โต๊ะจัง พาสาว ๆ ไปพักร้อนปลายปีถึงอิตาลี กับแคมเปญชวนเฉลิมฉลอง ‘Wonderful Italian Taste with Toh Chan’ สัมผัสเมนูหลากหลายสไตล์อิตาลี โดยเน้นการสร้าง Brand Engagement กับลูกค้ารุ่นใหม่ กลุ่มเพื่อน ครอบครัว และพนักงานออฟฟิต, อากะ (AKA) ต่อยอดความสนุกในแคมเปญปลายปี AKA K-Series กินเกาให้เมามันส์ อัดความสุขแบบไม่อั้น ด้วย AKA Lemon Bomb หรือมะนาวช็อตบอมบ์ เครื่องดื่มปาร์ตี้สุดเกา พร้อมจัดหนักเมนูเกาหลีกว่า 36 เมนู, ทางฝั่งแบรนด์ไทย ตำมั่ว (Tummour) ส่งแคมเปญปลายปีตอกย้ำความมั่วระดับตำนาน เน้นการสร้าง Experience ใหม่ให้กับลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่ กับแคมเปญ ‘โคตรแซ่บ โคตรคุ้ม’ เสิร์ฟ 3 เมนู ตำโคตรมั่ว, ตำโคตรเจ้าสมุทร, ตำโคตรหมูยอ จัดหนัก จัดเต็ม แบบไม่หวงเครื่อง มาพร้อมโปรโมชั่นแลกซื้อเมนูหมูสับปลาร้าทรงเครื่อง 1 จาน เพียง 69 บาท (จากราคาปกติ 135 บาท) เมื่อซื้อเมนูตำโคตร (ที่ร่วมรายการ), เขียง (Khiang) ขอส่งเมนูใหม่แบบย้อนวันวาน วัยเด็ก เป็นแคมเปญส่งท้ายปีแบบน่ารัก ๆ กับ ‘มาม่าหน้าโรงเรียน’ 3 เมนูเด็กเส้น เครื่องแน่น ได้แก่ มาม่าหน้าโรงเรียน, มาม่าปลากระป๋อง, มาม่าต้มยำทรงเครื่อง

นอกเหนือจากกลยุทธ์การตลาดส่งท้ายปีของทุกแบรนด์ในเครือ การขยายสาขาก็เป็นเป้าหมายหลักของ เซ็น กรุ๊ป ด้วยเช่นกัน ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่รวม 24 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 18 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 5 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 1 สาขา หากนับรวมทั้งปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่จำนวนทั้งหมด 57 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 38 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 17 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 2 สาขา

โดยในช่วงไตรมาส 4 ตุลาคม - ธันวาคม ปี 2566 มีการเปิดสาขาใหม่ดังนี้ 

  • แบรนด์ อากะ (AKA) เปิด 5 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลนครศรีธรรมราช, เซ็นทรัลเวสต์ วิลล์ และเทอร์มินอล 21 พัทยา รวมสาขาของ AKA ทั้งหมดเป็น 53 สาขา และ อากะ ชาบู (AKA Shabu) 1 สาขา
  • แบรนด์ เซ็น เรสเตอร์รอง (ZEN) เปิด 5 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และเทอร์มินอล 21 พัทยา รวมทั้งหมดเป็น 55 สาขา
  • แบรนด์ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) เปิด 4 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และ ลาวิลล่า อารีย์ รวมทั้งหมดเป็น 35 สาขา
  • แบรนด์ ดินส์ (Din's) เปิดเพิ่ม 1 สาขาใหม่ ได้แก่ เทอร์มินอล 21 พัทยา
  • แบรนด์ ตํามั่ว เปิดสาขาแฟรนไซส์ 2 สาขาใหม่ที่ ห้างไชยแสง สิงห์บุรี, บิ๊กซี สระบุรี และ เดอ ตํามั่ว เปิด สาขาแฟรนไซส์ 1 สาขาใหม่ ที่เซ็นทรัลเวสต์วิลล์
  • แบรนด์ สาวญวน เปิด 5 สาขาใหม่ เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 3 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลอุดร, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช และสาขาแฟรนไชส์อีก 2 สาขา คือ เดอะมอลล์บางแค และเดอะมอลล์บางกะปิ
  • เขียง เปิดสาขาแฟรนไชส์ 1 สาขาต่างประเทศที่มาเลเซีย

ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทมีสาขาร้านอาหารทั้งสิ้น 341 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง 182 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 149 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 10 สาขา

นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีการดำเนินการด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการลดปริมาณขยะ ด้วยการคัดแยกขยะและนำกลับมาใช้ประโยชน์หรือนำกลับมารีไซเคิล และเริ่มมีการสนับสนุนวัตถุดิบ ไข่ไก่ Cage Free โดยเริ่มนำมาใช้กับ ร้าน เซ็น เรสเตอร์รอง, ร้าน อากะ และ ร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล สาขา เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่, ร้าน เซ็น เรสเตอร์รอง สาขา เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล อีก 20 สาขาในกรุงเทพฯ ด้วย

6 มีนาคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
On the Table ครีเอท ‘NEW VIBE’ ชู Food Creation & New Experience ดึง TOH CHAN x SISTERS เอาใจคนรุ่นใหม่ไลฟสไตล์เก๋ ทั้งสายฟู้ดส์ สายคอนเทนท์ ชวนแวะมาเช็คอิน ส่องผลงานศิลปะสุดคิ้วท์
28 กุมภาพันธ์ 2567
อ่านเพิ่มเติม
ปิ้งย่างอินเลิฟ! AKA สร้างกระแสช่วงวาเลนไทน์ ‘เปลี่ยนคู่แข่งเป็นคู่รัก’ มอบ ‘ช่อหมูสื่อรัก’ กระชับมิตรแบรนด์คู่แข่งในตลาด แถมถูกจริตคู่รักนักปิ้ง สร้าง engagement ร่วมกันหวานฉ่ำ
12 กุมภาพันธ์ 2567
อ่านเพิ่มเติม
AKA Champion "ปิ้งจุก สุขทั่วไทย" ท้าดวลนักกินจุทั่วไทย ร่วมชิงเงินรางวัลสูงถึง 100,000 บาท
18 มกราคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
เซ็น เรสเตอร์รอง ต้อนรับปีมังกรทอง เสริมความมงคลด้วยมื้ออาหารคุณภาพกับ 5 เมนูมังกรมงคล พร้อมเช็คดวงปัง ๆ ไปกับ หมอต๊อกแต๊ก A4 หมอดูชื่อดัง
29 ธันวาคม 2566
อ่านเพิ่มเติม
16 ธันวาคม 2563
บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นกรุ๊ปส่งแบรนด์ อากะบุกตลาดบุฟเฟ่ต์ชาบูรับแนวโน้มตลาดขยายตัว เปิดตัว อากะ ชาบู” (AKA SHABU) ต่อยอดความสำเร็จ ชูจุดเด่นอากะชาบูบาร์ให้ลูกค้าหยิบอาหารได้เอง พร้อมชาบูหม้อเดี่ยวเลือกได้ 2 น้ำซุปสำหรับลูกค้าแต่ละราย ประเดิมเปิดบริการแห่งแรกภายในร้านอากะ สาขาเซ็นทรัล บางนา พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2563  - 31 ธันวาคม 2563 จัด Meat Lover Buffet เริ่มต้นที่ 299+ บาทต่อคน จากปกติคนละ 339+ บาท ปีหน้าวางแผนรุกหนัก คาดขยายเพิ่มอีก 4 แห่ง

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ต่อยอดความสำเร็จแบรนด์ ‘อากะ’ ซึ่งเป็นร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นที่เปิดบริการมาแล้วกว่า 13 ปี ปัจจุบันมีร้านเปิดบริการรวม 24 สาขา สู่การให้บริการรูปแบบใหม่กับ “อากะ ชาบู” (AKA SHABU) บุปเฟ่ต์ชาบูที่ให้ลูกค้าอิ่มได้ไม่อั้น หลังประเมินภาพรวมอาหารประเภทชาบูในปี 2564 มีมูลค่าตลาดของธุรกิจชาบูสูงถึงกว่า 15,000 ล้านบาท และมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และอากะเป็นแบรนด์ที่มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งในด้านของบุฟเฟ่ต์ ทั้งนี้ เราตั้งเป้าจะเป็นผู้นำในเรื่องบุฟเฟต์ทั้งปิ้งย่างและชาบู ภายใน 3 ปี ตลอดจนยังทำให้เรามีโมเดลทางธุรกิจครบทั้งปิ้งย่างและชาบูอีกด้วย

สำหรับ “อากะ ชาบู” พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ชื่นชอบหรือต้องการสัมผัสรสชาติอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ชาบูในสไตล์ญี่ปุ่น ลูกค้าสามารถรับประทานอาหารได้แบบไม่อั้น จุดเด่นของร้านได้จัดเตรียมอากะชาบูบาร์ ที่คัดสรรวัตถุดิบหลากหลายที่มีคุณภาพให้ลูกค้าเลือกรับประทานเองโดยไม่ต้องรอเสิร์ฟ พร้อมจัดเตรียมเนื้อสัตว์และอาหารซีฟู้ดพร้อมเสิร์ฟเพื่อคงคุณภาพอาหารที่สดใหม่ นอกจากนี้ได้จัดเตรียมหม้อชาบูสำหรับลูกค้าแต่ละราย เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปที่เลือกได้ 2 รสชาติ

ปัจจุบัน “อากะ ชาบู” เปิดบริการแห่งแรกแล้วภายในร้านอากะ สาขาเซ็นทรัล บางนา ชั้น 2 โดยได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารชาบูสไตล์ญี่ปุ่น ในปีหน้าจึงวางแผนรุกหนักมากขึ้น คาดว่าจะเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นอีก 4 แห่ง และจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานลูกค้าและผลักดันการเติบโต

ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเลือกรับประทานเซ็ตบุฟเฟ่ต์ 3 รูปแบบ ได้แก่ เซ็ตที่ 1 บุฟเฟ่ต์ Meat Lover Buffet สำหรับคนรักบุฟเฟ่ต์สุดคุ้ม ราคา 339+ บาทต่อคน เต็มอิ่มกับเนื้อหมู-ไก่ และเมนูบุฟเฟ่ต์กว่า 40 รายการ ล่าสุดได้จัดโปรโมชั่นพิเศษเพียง 299+ บาทต่อคน ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2563 เซ็ตที่ 2 บุฟเฟ่ต์ Regular Buffet ราคา 439+  บาทต่อคน บุฟเฟ่ต์ที่เพิ่มความอร่อยในส่วนของซีฟู้ด และเนื้อวัว ประกอบด้วย กุ้ง แซลมอน ปลาหมึกเจาะ และเมนูเนื้อวัวย่าง เนื้อลูกมะพร้าว เบคอนเนื้อ USA และเซ็ตที่ 3 Premium Buffet 549+ บาทต่อคน บุฟเฟ่ต์ของความพรีเมี่ยมที่มีทั้ง กุ้งแม่น้ำ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ เนื้อไทยวากิว เนื้อสันคอออสเตรเลีย ครบทั้งซีฟู้ด หมู เนื้อและเครื่องเคียงแบบไม่อั้น  
14 ธันวาคม 2563
บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นกรุ๊ป ผู้นำด้านธุรกิจร้านอาหาร ในนามร้านอาหารตำมั่ว และลาวญวน ร่วมเป็นกำลังใจแสะส่งมอบความห่วงใยให้ผู้ประสบอุทกภัย จังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมบริจาคอาหารกล่องให้แก่ผู้แทนจังหวัด และเสื้อ ให้แก่เหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 1,150 ตัว โดยมี คุณสายใจ ทุเนตร์ คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้แทนรับมอบ เพื่อส่งต่อไปยังผู้ประสบภัยในเขตต่างๆ ต่อไป  ณ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช
3 ธันวาคม 2563
บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นกรุ๊ป เปิดเกมรุกสตรีทฟู้ดเต็มสูบ ส่ง เขียงปั้นโมเดลใหม่ รถเข็นรุกขยายแฟรนไชส์อาหารไทยสไตล์ จัดจ้าน ถึงเครื่อง ถึงใจขยายพื้นที่ต่างจังหวัด ขานรับตลาดสตรีทฟู้ดปีหน้าที่มีอัตราการเติบโต 5 - 6% หรือมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 340,000 ล้านบาท ชูโลว์คอสต์โมเดลลงทุนต่ำ คืนทุนเร็ว 1 - 2 ปี หวังเป็นโมเดลขนาดเล็กเข้าถึงชุมชนและขยายฐานลูกค้าได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ประเดิมเปิดสาขาต้นแบบย่านท่าพระ และเปิดให้บริการที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มั่นใจโมเดลรถเข็นจะเป็นโมเดลสร้างอาชีพแก่คนในท้องถิ่น

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) หรือ
ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดสตรีทฟู้ดในปี 2564 คาดว่ามีอัตราการเติบโต 5 - 6% หรือมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 340,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นอาหารที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนไทย ราคาจับต้องได้สอดคล้องกับกำลังซื้อและสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว ประกอบกับพฤติกรรมการสั่งอาหารผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ขยายช่วยผลักดันตลาดเติบโต ล่าสุดบริษัทฯ เปิดตัวแฟรนไชส์เขียงโมเดลใหม่ในรูป ‘รถเข็น’  ที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก

เขียงรูปแบบรถเข็น เป็นโลว์คอสต์โมเดล มีพื้นที่เริ่มต้น 30 - 40 ตารางเมตร หรืออาคารพาณิชย์เพียง 1 ยูนิต ก็สามารถขายอาหารได้ จึงสามารถเข้าถึงทำเลที่มีศักยภาพและกระจายสาขาได้แทบทุกพื้นที่ โดยคิดค่าลงทุนและค่าแฟรนไชส์ต่ำกว่าโมเดลทั่วไป เพื่อให้สอดคล้องกับผู้ที่สนใจลงทุนประกอบการธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็กโดยใช้งบลงทุนไม่สูง หากอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพมีโอกาสคืนทุนภายใน 1 - 2 ปี ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสขยายแฟรนไชส์ได้อีกมาก

“ล่าสุดได้เปิดบริการเขียงรถเข็น สาขาแรกย่านท่าพระ เพื่อเป็นสาขาต้นแบบที่สร้างการรับรู้แก่ผู้ที่สนใจลงทุนเปิดร้านอาหารสตรีทฟู้ดขยายฐานลูกค้า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการในภาคใต้ซื้อแฟรนไชส์และพร้อมเปิดบริการในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเดือนธันวาคมนี้ และอยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายจังหวัด โดยบริษัทฯ ต้องการต่อยอดเขียงเพื่อเป็นโมเดลสร้างอาชีพแก่คนในท้องถิ่น

นายบุญยง กล่าวว่า สำหรับแผนขยายสาขาเขียงในปี 2564 วางเป้าหมายเปิดบริการอีก 100 สาขา โดยบริษัทฯ จะรุกขยาย 2 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบสแตนดาร์ด จำนวน 40 สาขา  และรูปแบบโลว์คอสต์ จำนวน 60 สาขา ประกอบด้วย สาขาในคอมมูนิตี้มอลล์, ฟู้ดคอร์ท, สถานีบริการน้ำมัน, เทสโก้โลตัส, สถานีรถไฟฟ้า MRT, อาคารพาณิชย์, แบบสแตนอโลน, ภายในห้างสรรพสินค้า และโมเดลล่าสุดรูปแบบรถเข็น ส่งผลให้เขียงเป็นแบรนด์
สตรีทฟู้ดที่มีโมเดลแฟรนไชน์ครอบคลุมถึง 9 โมเดล และมีสาขาให้บริการมากที่สุดในเชนสตรีทฟู้ดของประเทศไทย  

ทั้งนี้ ในช่วงส่งท้ายปี เขียงยังจัดโปรโมชั่นพิเศษเมื่อสั่งเมนูมาม่าผัด แถมฟรีชามะนาว ราคา 70 บาท (จากราคาปกติ 95 บาท) และพิเศษสั่งเมนูข้าวปลาหมึกผัดไข่เค็ม และข้าวกะเพราไก่ชิ้น ราคา 165 บาท (จากราคาปกติ 215 บาท) ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 - วันที่ 31 มกราคม 2564 ที่ ร้านเขียง ทุกสาขา นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชั่นที่จัดร่วมกับแอพพลิเคชั่นเดลิเวอรี่ ได้แก่ โปรโมชั่นพิเศษเมื่อสั่งอาหารผ่าน GrabFood กับเซ็ตคู่เมนูข้าวกะเพราเทพ และข้าวไก่กระเทียม ราคา 149 บาท (จากราคาปกติ 200 บาท) และกับเซ็ตคู่เมนูมาม่าผัดกะเพราไก่ และมาม่าผัดซีอิ๊วไก่ ราคา 119 บาท (จากราคาปกติ 150 บาท) ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2563 –  20 ธันวาคม 2563, โปรโมชั่นพิเศษเมื่อสั่งอาหารผ่าน LINE MAN กับเมนูข้าวกะเพราเทพหมู พิเศษ ซื้อ 1 แถม 1 ราคา 125 บาท (จากราคาปกติ 250 บาท) ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 – วันที่ 7 มกราคม 2564, และโปรโมชั่นพิเศษเมื่อสั่งอาหารผ่าน Gojek กับเซ็ตคู่ข้าวกะเพราเทพหมู และข้าวผัดพริกแกงไก่ ราคา 135 บาท (จากราคาปกติ 195 บาท), เซ็ตคู่ข้าวกะเพราคลุกไก่ และมาม่าผัดซีอิ๊วไก่ ราคา 105 บาท (จากราคาปกติ 150 บาท), และเซ็ตคู่ข้าวกะเพราดิบเถื่อน (เนื้อโคขุน) และข้าวกะเพราไก่ชิ้น ราคา 135 บาท (จากราคาปกติ 225 บาท) ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 – วันที่ 10 มกราคม 2564
16 พฤศจิกายน 2563
บุญยง  ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มอบเงินบริจาคหลังหักค่าใช้จ่ายจากการจำหน่าย AKA MASK 2020 (อากะ แมส 2020) ให้แก่โรงพยาบาลศิริราช จำนวน 100,000 บาท เพื่อร่วมสนับสนุนการรักษาคนไข้โควิด-19 และยับยั้งโรคระบาด โดยมี รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เป็นผู้รับมอบ พร้อมด้วย พัชนีวรรณ  ตันประวัติ, ปิยะดา มุลกุณี, นิชดา  เตรียมชัยศรี, วรกัญญา  ปานสุวรรณ, และเจษฎา  งามพร้อม ร่วมงาน ณ ตึกอำนวยการ โรงพยาบาลศิริราช                       
10 พฤศจิกายน 2563
“เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป” หรือ ZEN โชว์ศักยภาพการฟื้นตัว ทำกำไรสุทธิไตรมาส 3/2563 อยู่ที่ 45.5 ล้านบาท ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า หลังปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ปรับโครงสร้างองค์กร และผู้บริโภคเชื่อมั่นทานอาหารที่ร้าน เดินหน้าขยายร้านอาหารเพิ่มเป็นกว่า 340 สาขาภายในสิ้นปีนี้ พร้อมวางกลยุทธ์ชูพอร์ตธุรกิจอาหารหลากหลายตอบรับผู้บริโภคทุกไลฟ์สไตล์ มุ่งขับเคลื่อน “ดิจิทัล แพลตฟอร์ม” มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบไร้รอยต่อ สร้างแบรนด์และช่องทางจำหน่ายผ่านบนอีคอมเมิร์ซ เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่และเข้าถึง Big Data ดึงอินไซด์ผู้บริโภคต่อยอดพัฒนาการวางกลยุทธ์

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 ปรับตัวดีขึ้น โดยมีกำไรสุทธิ 45.5 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานของเซ็นกรุ๊ปได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างองค์กรให้กระชับ คล่องตัว และบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อการเพิ่มขีดความสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา พบว่าลูกค้ากลับมาใช้บริการนั่งทานในร้านอาหารเครือเซ็นกรุ๊ปเฉลี่ย 80 - 85% สะท้อนว่าธุรกิจร้านอาหารฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยคลี่คลาย รัฐบาลยกเลิกการล็อกดาวน์ บริษัทฯ จึงพร้อมรุกขยายสาขาต่อเนื่อง วางเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้จะมีร้านอาหารทุกแบรนด์ที่เปิดให้บริการ (บริษัทฯ ลงทุนเองและแฟรนไชส์) รวมทั้งสิ้น 340 สาขา พร้อมกับขยายบริการเดลิเวอรี่และช่องทางอีคอมเมิร์ซ เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้ายุค New Normal ส่วนในปี 2564 จะขยายร้านอาหารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 400 สาขา โดยเน้นการขยายสาขาแบรนด์ที่มีศักยภาพเป็นหลักและสาขาแฟรนไชส์

นอกจากนี้ เครือเซ็นกรุ๊ปจะมีอาหารหลากหลายสไตล์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น, ไทย อีสาน, ปิ้งย่างสไตล์ยากินิกุ, นีโอไต้หวัน, เวียดนาม, โตเกียวคาเฟ่, และสตรีทฟู้ด เรายังขับเคลื่อน ด้วย “ดิจิทัล แพลตฟอร์ม” ผ่านกลยุทธ์ “Omni Channel Customer Centric” ผสมผสานจุดเด่นออฟไลน์และออน์ไลน์แบบไร้รอยต่อ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุม ด้วยการพัฒนาเมนูต่างๆ และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคทั้งออฟไลน์และออนไลน์ พร้อมเชื่อมโยงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย แอปพลิเคชั่นเว็บไซต์ร้านอาหารในเครือและอี-มาร์เก็ตเพลส เพื่อรวบรวมข้อมูลของลูกค้า ทั้งการสั่งเมนูอาหาร โปรโมชั่น ราคา นำมาเข้าสู่ระบบจัดการฐานข้อมูล (Big Data) วิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เพื่อนำมาพัฒนาให้ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ หลังจากภาครัฐได้ออกมาตรการ ช้อปดีมีคืน พบว่ามีผู้ใช้บริการร้านอาหารในเครือเซ็นกรุ๊ป เพิ่มขึ้น บริษัทฯ จึงนำร้านอาหาร 7 แบรนด์ ได้แก่  ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น, ร้าน AKA (อากะ), ร้าน On the Table, Tokyo Café (ออน เดอะเทเบิ้ล โตเกียว คาเฟ่), ร้าน Din’s (ดินส์), ร้านตำมั่ว, ร้านลาวญวน และร้านเขียง จำหน่าย “Gift Voucher Zen Corporation Group” มูลค่า 5,000 บาท ในราคาเพียง 4,000 บาท โดยสามารถซื้อผ่าน ณ ร้านอาหารในเครือเซ็นกรุ๊ป ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 - วันที่ 31 ธันวาคม 2563 (หรือจนกว่าสินค้าจะหมด)
5 พฤศจิกายน 2563
เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ปหรือ ZEN ผนึกกำลัง Lazada และ Shopee ยักษ์ใหญ่อีมาร์เก็ตเพลส วางกลยุทธ์ Omni Channel” สร้างประสบการณ์การรับประทานอาหาร ขนร้านอาหารในเครือ 5 แบรนด์ดัง ได้แก่ ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น, อากะ, ออน เดอะเทเบิ้ล โตเกียว คาเฟ่, ตำมั่ว และเขียง จัดโปรโมชั่นใหญ่ZEN  GROUP MEGA DAY 11.11” ลดสูงสุด 45% พบกับ E-Voucher จากราคาปกติมูลค่า 200 บาท เหลือเพียง 111 บาท (จำนวน 500 สิทธิ์ต่อแบรนด์)    โดยมีให้เลือก 2 สไตล์ สามารถเลือกอิ่มอร่อยกับหลากหลายเมนู หรืออิ่มอร่อยกับเมนูพิเศษ จำหน่ายเฉพาะวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 เท่านั้น หวังเพิ่มจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการภายร้านเพิ่มขึ้น 10%

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) หรือ
ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์เจาะกลุ่มลูกค้าในแพลตฟอร์มอีมาร์เก็ตเพลส เพื่อนำธุรกิจร้านอาหารในเครือเซ็นกรุ๊ป เข้าถึงลูกค้าได้ทุกช่องทางออนไลน์และออฟไลน์  จึงจับมือร่วมกับ Lazada และ Shopee อีมาร์เก็ตเพลสรายใหญ่ของประเทศ จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษแห่งปี ZEN  GROUP MEGA DAY 11.11จำหน่าย E-Voucher สุดคุ้มด้วยส่วนลดสูงสุด 45% จากปกติมูลค่า 200 บาท เหลือเพียง 111 บาท โดยเป็นการผนึกกำลัง 5 ร้านอาหารแบรนด์ดังในเครือเซ็นกรุ๊ป ได้แก่ ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น, ร้านอากะ, ร้านออน เดอะเทเบิ้ล โตเกียว คาเฟ่ ,ร้านตำมั่ว และร้านเขียง

ความร่วมมือกับ Lazada และ Shopee อีมาร์เก็ตเพลสรายใหญ่ของประเทศ เป็นการดำเนินกลยุทธ์ “Omni Channel” ผสมผสานการทำตลาดบนช่องทางออฟไลน์กับออนไลน์เข้ากันอย่างลงตัว เพื่อมอบประสบการณ์สุดประทับใจแก่ผู้บริโภค และสร้างโอกาสเพิ่มยอดขายทางธุรกิจ ซึ่งนับเป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ของวงการร้านอาหาร ที่สร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารอย่างไร้รอยต่อที่เชื่อมโยงโลกออนไลน์ โดยมุ่งนำเสนอโปรโมชั่นที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายเพื่อดึงดูดใจลูกค้าเข้ามาทานอาหารในร้าน ซึ่งการดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นที่ธุรกิจร้านอาหารในเครือเซ็นกรุ๊ป จะรุกสร้างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจ โดยคาดว่ากลยุทธ์ดังกล่าวกระตุ้นลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น 10 % จากช่วงปกติ

ทั้งนี้ การจัดโปรโมชั่น ZEN  GROUP MEGA DAY 11.11บริษัทฯ นำ E-Voucher จาก 5 ร้านอาหารดังในเครือเซ็นกรุ๊ป จำหน่ายจำนวนกว่า 5,000 สิทธิ์ หรือเฉลี่ย 1,000 สิทธิ์ต่อแบรนด์  ที่ Lazada   และ Shopee เท่านั้น กำหนดการขายวันที่ 11-14 พฤศจิกายน 2563 โดยลูกค้าสามารถนำ E-Voucher มาใช้บริการร้านอาหารในเครือเซ็นกรุ๊ป  (เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ) ซึ่งนอกจากจะอิ่มอร่อยคุ้มค่ากับโปรโมชั่น E-Voucher แล้ว ยังสามารถขอออกใบกำกับภาษีเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีตามจำนวนที่ใช้จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท ภายใต้มาตรการของภาครัฐ ช้อปดีมีคืน ได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2563