TH

‘เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป’ เปิดแผนธุรกิจปี 63 พร้อมรับมือผลกระทบโควิด - 19 รุกปรับพื้นที่ครัวร้านอาหารในเครือ เซ็น กรุ๊ป เป็นครัวกลาง รองรับออเดอร์เดลิเวอรี่ พร้อมชูกลยุทธ์ Collaboration ร่วมทุนพาร์ทเนอร์ยักษ์ใหญ่ขยาย ‘เขียง’ ภาคใต้

16 มีนาคม 2563
บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป หรือ ZEN เปิดแผนธุรกิจปี 2563 รับมือโควิด - 19 ส่งผลกระทบกับภาพรวมธุรกิจร้านอาหารทั้งระบบ มองเป็นโอกาสเพิ่มยอดขายจากช่องทางเดลิเวอรี่ เดินเกมรุกปรับพื้นที่ครัวร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ ZEN เฟสแรก 5 สาขา เป็น ‘ครัวกลาง’ ของร้านอาหารในกลุ่ม ZEN เพื่อรองรับออเดอร์เดลิเวอรี่ที่กำลังเติบโต  ลุยปั้น ‘เขียง’ ร้านอาหารตามสั่งเป็นเรือธงขยายสาขาในปีนี้ คาดเปิดสาขาใหม่ทั้งปีไม่ต่ำกว่า 100 แห่ง ภายใต้กลยุทธ์ Collaboration และโมเดลแฟรนไชส์ พร้อมร่วมมือพาร์ทเนอร์ยักษ์ใหญ่กลุ่ม บมจ.หาดทิพย์ ตั้งบริษัทร่วมทุนขยายสาขาเขียง ในพื้นที่ภาคใต้

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN
ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ส่งผลผู้บริโภคเพิ่มความระมัดระวังการใช้ชีวิตภายนอกบ้าน ประกอบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงในช่วงนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงกลางปีนี้และอาจทำให้ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้วิเคราะห์โอกาสทางธุรกิจภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว โดยพบว่าช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมายอดขายจากช่องทางเดลิเวอรี่และธุรกิจอาหารค้าปลีก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุง เช่น หมี่มั่ว และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน อาทิ น้ำพริกปลาร้า น้ำจิ้มแจ่ว น้ำจิ้มไก่ ยังเติบโตได้ เนื่องจากผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมมาสั่งอาหารมารับประทานและซื้อกับข้าวหรืออาหารสำเร็จรูปเพื่อนำมาปรุงเองหรือรับประทานที่บ้านเพิ่มขึ้น รวมถึงเน้นเรื่องความสะอาดและการรับประทานอาหารปรุงสุก

ดังนั้น แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ปรับระบบบริหารจัดการภายในร้านให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยดำเนินการปรับพื้นที่ครัวของร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ ZEN เป็น ‘ครัวกลาง’ ของร้านอาหารกลุ่ม ZEN เพื่อรองรับออเดอร์เดลิเวอรี่ที่กำลังเติบโตและสอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าในสภาวะปัจจุบัน เริ่มดำเนินการเฟสแรก 5 สาขา ได้แก่ สาขาดองกิ มอลล์ ทองหล่อ, สยามสแควร์ วัน, เดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะแจส วังหินและอาคาร All Season กำหนดเปิดบริการในวันที่ 18 มีนาคม 2563

นอกจากนี้ นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ ได้ปรับพอร์ตธุรกิจร้านอาหารให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสขยายสาขาภายนอกศูนย์การค้าและเพิ่มสัดส่วนรายได้จากร้านอาหารหลากหลายสไตล์ ได้แก่ การเปิดตัวร้านอาหารแบรนด์ใหม่ อาทิ ‘เขียง’ ร้านอาหารตามสั่งรสชาติจัดจ้านในราคาที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เข้าถึงได้ ปัจจุบันเปิดบริการแล้วประมาณ 60 สาขา จากพอร์ตร้านอาหารทุกแบรนด์รวมกันกว่า 340 สาขา, ‘FOO Flavor’ ร้านอาหารสไตล์ไทยฟิวชั่นที่สร้างความแปลกใหม่ในด้านรสชาติ, Din’s ร้านอาหารจีนจานด่วนที่ซื้อแฟรนไชส์จากญี่ปุ่น ฯลฯ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ZEN กล่าวต่อว่า สำหรับทิศทางขยายสาขาในปี 2563 จะเน้นการขยายสาขาแบรนด์ ‘เขียง’ ภายใต้โมเดลแฟรนไชส์ คาดว่าจะเปิดสาขาใหม่ในปีนี้เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 100 สาขา โดยเน้นความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรชั้นนำภายใต้กลยุทธ์ ‘Collaboration’ รูปแบบต่างๆมากขึ้น ทั้งการร่วมทุนเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ประกอบการชั้นนำที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญการดำเนินธุรกิจในระดับภูมิภาคหรือระดับจังหวัด เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและร่วมมือกันขยายสาขาเชิงรุกได้อย่างรวดเร็ว  ตลอดจนการขยายธุรกิจด้วยโมเดลแฟรนไชส์ โดยการแต่งตั้งผู้ประกอบการในท้องถิ่นที่สนใจธุรกิจร้านอาหารเพื่อให้สิทธิ์แฟรนไชส์ขยายสาขาในแต่ละจังหวัด โดยผู้ที่สนใจเป็นแฟรนไชส์สามารถติดต่อได้ที่อีเมล์ franchisebusiness.div@
zengroup.co.th

จากกลยุทธ์ดังกล่าวนำมาสู่ความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง ZEN  และกลุ่มบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมรายใหญ่ภายใต้เครื่องหมายการค้า ‘โคคา-โคลา’ ในพื้นที่ภาคใต้ 14 จังหวัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ บริษัท กินดีอยู่ดี 2020 จำกัด โดย บมจ.หาดทิพย์ ถือหุ้น 75% ผ่านบริษัท หาดทิพย์ ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจเจส จำกัด และ บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป ถือหุ้น 25% ผ่านบริษัท เซ็น แอนด์ สไปซี่ จำกัด  

“ความร่วมมือดังกล่าวเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะขยายร้านเขียงในภูมิภาค โดยสามารถแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์กับพาร์ทเนอร์ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการขยายสาขาในภาคใต้ได้อย่างรวดเร็วครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยตั้งเป้าหมายระยะยาวจะมีร้านเขียงเปิดบริการในภาคใต้ครบทุกจังหวัด” นายบุญยง กล่าว

นอกจากนี้ ในปี 2563 บริษัทฯ มุ่งจะเน้นการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านโครงการ CSR ภายใต้แนวคิด ‘ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคในทุกๆด้าน’ ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบที่ดี การบริการที่จริงใจอย่างมืออาชีพ จึงได้เริ่มโครงการ
‘พลังเซ็นเพื่อสังคม’ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ขาดโอกาสทางสังคม เช่น ร่วมสนับสนุนเงินทุนให้โครงการวิสาหกิจชุมชนจังหวัดชัยนาท เพื่อพัฒนาเป็น ‘ใจดีฟาร์ม’ โดยการสนับสนุนผู้พิการในพื้นที่ปลูกเมล่อน พร้อมรับซื้อเพื่อนำมาพัฒนาเป็นเมนูอาหรภายในร้าน และร่วมกับมูลนิธิขอบฟ้ากว้าง ในจังหวัดขอนแก่น ส่งเสริมสนับสนุนเยาวชนและผู้ปกครองของกลุ่มเด็กพิเศษให้มีรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนโดยการสั่งซื้อไก่พันธุ์ KKU1 ที่วิจัยโดยคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีจุดเด่นด้านปริมาณไขมัน คอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอร์ไรด์และยูริกต่ำ เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในร้านอาหารเครือ ZEN